ไอเดีย ป้องกัน อีโบลา จากสาธารณสุข 3 มาตราการ

thumbnail

อีโบลา ระบาด สาธารณสุข ออก 3 มาตราการป้องกัน เตือนประชาชนอย่าเดินทางไปประเทศพื้นที่ระบาดของโรค

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาตราการป้องกันการระบาด เชื้อ อีโบลา ใน ประเทศไทย ภายหลังโรคดังกล่าวได้ระบาดหนักในประเทศแถวแอฟริกาตะวันตก จนคร่าชีวตผู้คนไปแล้วกว่า 672 ราย แม้ว่า ไทยจะมีความเสี่ยงในการระบาดต่ำ ​แต่ก็​ได้จัดระบบเฝ้าระวังและป้องกันไว้แล้ว คือ

อีโบร่า, ข่าวอีโบรา, ข่าววันนี้

1. ให้กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศเฝ้าระวังผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนไทยที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค หากพบผู้มีอาการอยู่ในข่ายสงสัยให้รายงานทันที
2. ให้โรงพยาบาลทุกแห่งใช้มาตรการดูแลรักษา หากมีผู้ป่วยมีอาการในข่ายสงสัยในระดับเดียวกับโรคไข้หวัดนก ,รคซาร์ส เป็นต้น
และ 3.ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เตรียมความพร้อมในการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ

นอกจากนี้ยังตั้งศูนย์เฝ้าระวังตามสนามบินนานาชาติทุกแห่งพร้อมทั้งสั่งห้ามประชาชนเดินทางไปยังประเทศเกิดระบาดของ เชื้อ อีโบลา หากไม่มีความจำเป็น

สำหรับ ไวรัส อีโบลา มีช่องทางการติดต่อโรคเหมือนโรคเอดส์ ไวรัสตับอักเสบ คือ ติดต่อจากคนสู่คนผ่านทางการรับหรือสัมผัสของเหลวจากร่างกายผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นเลือด น้ำลาย น้ำมูก เหงื่อ สารคัดหลั่งต่าง ๆ ตลอดจนเชื้ออสุจิ โดยยังไม่พบการติดต่อทางทางเดินหายใจ

โดยผู้ป่วยจะมีลักษณะ มีไข้สูงทันที อ่อนเพลียปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะมาก ตามด้วยอาการเจ็บคอ อาเจียน ท้องเสีย และมีผื่นนูนแดงขึ้นตามตัว ในรายที่อาการรุนแรงหรือในบางรายที่เสียชีวิตจะมีอาการเลือดออกง่าย โดยมักเกิดร่วมกับภาวะตับถูกทำลาย ไตวาย มีอาการทางระบบประสาทส่วนกลางและช็อก อวัยวะหลายระบบเสื่อมหน้าที่ ​ และปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาเฉพาะ

ส่วนการป้องกันการติดเชื้อ ไวรัส อีโบลา นั้น ขอให้หลีกเลี่ยงการกิน สัมผัส สัตว์ป่าที่นำเข้าโดยไม่ผ่านการตรวจโรคทั้งที่ป่วยหรือไม่ป่วย โดยเฉพาะสัตว์จำพวกลิง หรือค้างคาว หรืออาหารเมนูพิสดารที่ใช้สัตว์ป่า หรือสัตว์แปลก ๆ มาประกอบอาหาร รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่น เลือด หรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย ศพของผู้เสียชีวิต และหากมีความจำเป็นให้สวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกายและล้างมือบ่อยๆ

ทั้งนี้หากประชาชนสงสัยอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 0-2590-3159, 3538 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ขอบคุณ MThai news

การพูดถึง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

Back To Top